วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Percussion Instruments

  เครื่องกระทบ (Percussion Instruments)

เครื่องดนตรีประเภทเครื่องตีได้แก่ เครื่องดนตรีที่เกิดเสียงจากการตีกระทบ การสั่น การเขย่า การเคาะ การต ีอาจจะใช้ไม้ตี หรืออาจจะใช้สิ่งหนึ่งกระทบเข้ากับอีกสิ่งหนึ่ง เพื่อให้เกิดเสียง เครื่องตีกระทบประกอบขึ้นด้วยวัสดุของแข็งหลายชนิด เช่น โลหะ ไม้ หรือแผ่นหนังขึงตึง เครื่องดนตรี เช่น







       กลองชุด (Drum set) คือเครื่องตีประกอบด้วยกลองใหญ่ กลองสะแนร์ ฉาบ 1 หรือ 2 ฝา กลองทอม 2 หรือ 3 ใบ ไฮแฮท กระเดื่องเท้า พร้อมทั้งเพิ่มเครื่องทำจังหวะอื่น ๆ














          กลองใหญ่ (Bass Drum) กลองใหญ่ คือ เครื่องตีมี 2 หน้า ขึงด้วยหนังกลอง เสียงกลองตีเน้นย้ำจังหวะเพื่อให้เกิดความหนักแน่น หรืออาจจะใช้การตีแบบรัวเพื่อให้เกิดความตื่นเต้น สร้างจุดสนใจในบทเพลงเพิ่มขึ้น












       กลองเล็ก (Snare Drum) กลองเล็ก คือ เครื่องตี มี 2 หน้า ขึงด้วยหนังกลอง ลักษณะเฉพาะคือหน้ากลองด้านล่างจะต้องคาดไว้ด้วยสายสะแนร์เป็นแผง เพื่อให้เกิดเสียงซ่า เดิมสายสะแนร์ทำดวยเอ็นสัตว์ ในปัจจุบันสายสะแนร์มีทั้งที่ทำด้วยไนล่อนและทำด้วยเส้นลวดโลหะ กลองเล็กมีหลายชื่อ เช่น Snare Drum และ Side Drum









     บองโก (Bongo) กลองบองโก เป็นกลองคู่ จะต้องมี 2 ใบเสมอ เล็ก 1 ใบ ใหญ่ 1 ใบ ระดับเสียงของกลอง 2 ใบ ตั้งเสียงให้ห่างกันในระดับคู่ 5 โดยประมาณ กลองทั้ง 2 ใบ จะติดตั้งกับอุปกรณ์ ยึดติดให้อยู่คู่กัน ขณะที่ตีกลองผู้ตีกลองจะต้องหนีบกลองทั้ง 2 ใบให้อยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างหนีบไว้ด้วยหัวเขาหรือวางไว้บนขาตั้งโลหะก็ได้









      คองก้า (Konga) ชื่อของกลองชนิดหนึ่ง เป็นกลองหน้าเดียว ขึงด้วยหนังสัตว์ กลองคองก้ามีหลายขนาดต่างระดับเสียงกัน จะใช้ 3 ใบ 4 ใบ หรือ 5 ใบ หรือมากกว่านั้นก็ได้ปกติใช้อย่างต่ำ 2 ใบ ตีสอดสลับกันตามลีลาบทเพลง ตีด้วยปลายนิ้วและฝ่ามือ










    เบลไล รา (Bell-lyra) ใช้ถือเล่นในวงโยธวาทิตและแตรวงที่เรียกดังนี้ก็เพราะว่า เครื่องดนตรีชนิดนี้รูปร่างเลียนแบบพิณไลร์ (Lyne) ของกรีกโบราณ ได้ดัดแปลงมาจากกลอคเค็นสปิล














      ไซโล โฟน (Xylophone) คือ เครื่องตีทำทำนองที่มีระดับเสียงแน่นอน เป็นระนาดไม้ขนาดเล็กของดนตรีสากล ลักษณะทั่วไปจะคล้ายกับมาริมบา หรือ ไวบราโฟน แต่ขนาดเล็กกว่า ลูกระนาดทำด้วยไม้เนื้อแข็ง ใต้ลูกระนาดมีท่อโลหะติดอยู่เพื่อเป็นตัวขยายเสียง









 
      ไวบราโฟน (Vibraphone) เครื่องตีทำทำนองที่มีระดับเสียงแน่นอน เป็นระนาดขนาดใหญ่ลูกระนาดทำด้วยโลหะ ลักษณะทั่วไปคล้ายกับมาริมบา หรือโซโลโฟน ใต้ลูกระนาดมีท่อโลหะเพื่อเป็นตัวขยายเสียง มีแกนใบพัดเล็ก ๆ ประจำอยู่แต่ละท่อ ใช้ระบบมอร์เตอร์หมุนใบพัดทำให้เกิดเอฟเฟคต์เสียงสั่นรัว











         กิ๋ง (Triangle) คือเครื่องตี ทำด้วยแท่งโลหะ ดัดให้เป็นรูปสามเหลี่ยม แท่งโลหะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. เพื่อให้เกิดเสียงกังวาน ต้องแขวนกิ๋งไว้กับเชือกแล้วด้วยแท่งโลหะ กิ๋งมีเสียงแจ่มใส มีชีวิตชีวา








      มาริมบา (Marimba) เครื่องตีทำนองที่มีระดับเสียงแน่นอน เป็นระนาด ไม้ขนาดใหญ่ลูกระนาดทำด้วยไม้พิเศษที่มีชื่อว่า “Rosewood” ใต้ลูกระนาดจะมีท่อโลหะติดอยู่เพื่อเป็นตัวขยายเสียง











        เคาเบลล์ (Cowbell) รื่องดนตรีประเภทตีกระทบ พัฒนามาจากกระดิ่งผูกคอวัว นำมาทั้งรูปร่างและชื่อรูปทรงคล้ายกับระฆังมากกว่ากระดิ่ง ตีด้วยไม้กลอง คาวเบลส์ ใช้มากในดนตรีละตินอเมริกา ดนตรีประกอบการเต้นลีลาศหรือเพลงลูกทุ่งของไทย คาวเบลส์ยังใช้เป็น
อุปกรณ์ส่วนหนึ่งของกลองชุดอีกด้วย









       ระฆังราว (Tubular Bells) คือ เครื่องตีทำนอง ทำด้วยท่อโลหะแขวนเรียงตามลำดับเสียงจากสูงไปต่ำ แขวนกับโครงโลหะในแนวดิ่ง ใช้ไม้ตีที่ปลายท่อด้านหัว จะเกิดเป็นเสียงเหมือนระฆัง








       มาราคัส (Maracas) คือ เครื่องตี เดิมทำด้วยผลน้ำเต้าที่แก่จัด ทำให้แห้ง ภายในบรรจุด้วยเมล็ดน้ำเต้า เมล็ดถั่วต่าง ๆ หรือลูกปัดลูกเล็ก ๆ ต่อด้ามไว้สำหรับจับถือ เวลาเล่นใช้เขย่าเพื่อให้เกิดเสียงซ่า ๆ จะเขย่าด้วยมือทั้ง 2 ข้าง ให้ดังสอดสลับกัน ปัจจุบันทำด้วยไม้









      แทมบูริน (Tambourine) เป็นเครื่องตีประกอบจังหวะ ประกอบขึ้นด้วยขอบกลมเหมือนขอบกลางขนาดเล็ก ขอบอาจทำด้วยไม้ พลาสติก หรือโลหะ รอบ ๆ ขอบติดด้วยแผ่นโลหะประกบกัน 2 แผ่น หรือติดด้วยลูกกระพรวนเป็นระยะใช้การตีกระทบกับฝ่ามือหรือสั่นเขย่า ให้กิดเสียงดังกรุ๋งกริ๋ง เพื่อประกอบจังหวะให้เกิดความสนุกสนาน สดชื่น









   ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Cabasa   คาบาซา (Cabasa) คือเครื่องตีทำจังหวะ เดิมทำด้วยผลน้ำเต้า หรือผลบวบแห้ง ภายนอกรอบ ๆ ห่อด้วยลูกประคำร้อยเชือก จะมีด้ามมือถือหรือไม่มีก็ได้ เกิดเสียงโดยการหมุน สั่น เขย่า ถู เพื่อให้ลูกประคำเคลื่อนที่เสียดสีกับผิวของผลน้ำเต้าหรือผลบวบ ทำให้เกิดเสียงดังขึ้นปัจจุบันคาบาซาทำด้วยไม้ประกอบโลหะ เป็นทรงกระบอก มีด้ามจับถือ ผิวของทรงกระบอกห่อหุ้มด้วยแผ่นโลหะ ทำผิวให้ขรุขระ ลูกประคำนั้นจะทำด้วยโลหะร้อยติดกันล้อมรอบผิวโลหะ








       คาสทาเนทหรือกรับสเปน (Castanet) เป็นเครื่องดนตรีประเภทตีกระทบจังหวะ กรับ 1 ชุดจะมี 2 ชิ้น ขนาดจะพอดีกับอุ้งมือ นำมาตีกระทบกันทำให้เกิดเสียงตามลีลาจังหวะที่ต้องการ ปกติจะใช้เสียงของกรับประกอบการเต้นระบำ นิยมใช้ในกลุ่มประเทศอเมริกาใต้ เช่น ประเทศสเปน เป็นต้น ตัวกรับจะทำด้วยไม้เนื้อแข็ง เมื่อมากระทบกันทำให้เกิดเสียงดัง











      ทิมปานี (Timpani) เป็นกลองที่มีลักษณะเหมือนกระทะ หรือกาต้มน้ำ จึงมีช่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Kettle Drum ตัวกลองทำด้วยโลหะทองแดง ตั้งอยู่บนขาหยั่ง กลองทิมปานี มีระดับเสียงแน่นอน เทียบเท่ากับเสียงเบส มีเท้าเหยียบเพื่อเปลี่ยนระดับเสียงตามต้องการในการบรรเลงต้องใช้อย่างน้อย 2 ใบ



ประเภทของเครื่องกระทบแบ่งออกเป็น 2 ประเภท

  • 1.เครื่องดนตรีมีระดับเสียงแน่นอน เครื่องดนตรีในกลุ่มนี้มีระดับเสียงสูงต่ำ เหมือนกับเครื่องดนตรีประเภทอื่นเกิดเสียงโดยการตีกระทบ ได้แก่
    • 1.1 ระฆังราว (อังกฤษTubular Bells) ในภาษาอังกฤษเรียกระฆังราวว่า “Orchestral Bells” และ “Chimes” เครื่องดนตรีชนิดนี้ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อเลียนเสียงระฆังจริง ๆ ทำด้วยท่อโลหะแขวนเรียงตามลำดับเสียงต่ำไปยังเสียงสูงท่อโลหะที่มีขนาดสั้นจะเป็นเสียงสูงส่วนท่อยาวจะเป็นเสียงต่ำ แขวนกับ โครงโลหะในแนวดิ่ง ใช้ไม้ตีที่ปลายท่อด้านหัวจะเกิดเป็นเสียงเหมือนเสียงระฆัง
    • 1.2 มาริมบา (อังกฤษMarimba) เป็นระนาดของดนตรีตะวันตก ลักษณะทั่ว ๆ ไปเหมือนกับไซโลโฟน หรือไวปราโฟนเป็นระนาดไม้ขนาดใหญ่ลูกระนาดทำด้วยไม้ที่มีชื่อว่า “โรสวู้ด” ใต้ลูกระนาดมีท่อโลหะติดอยู่เพื่อเป็นตัวขยายเสียง
    • 1.3 ไซโลโฟน (อังกฤษXylophone) เป็นระนาดไม้ขนาดเล็กของดนตรีตะวันตก ลักษณะทั่วไปคล้ายกับมาริมบาหรือไวบราโฟน ลูกระนาดทำด้วยไม้เนื้อแข็งจัดเรียงลำดับเสียงตามบันไดเสียงโครมาติก (Chromatic) เช่นเดียวกับเปียโนหรือออร์แกน ใต้ลูกระนาดมีท่อโลหะติดอยู่เพื่อเป็นตัวขยายเสียงประกอบด้วย 2 ขนาด
    • 1.4 ไวปราโฟน (อังกฤษVibraphone) เป็นระนาดโลหะของดนตรีตะวันตกลักษณะทั่วไปคล้ายกับมาริมบาหรือไซโลโฟนเป็นระนาดขนาดใหญู่กระนาดทำด้วยโลหะใต้ลูกระนาดมีท่อโลหะเพื่อเป็นตัวขยายเสียง มีแกนใบพัดเล็ก ๆ ประจำอยู่แต่ละท่อใช้ระบบ มอเตอร์หมุนใบพัด ทำให้เกิดเอฟเฟค (Sound Ettect) เสียงสั่นรัวได้
  • 2.เครื่องดนตรีมีระดับเสียงไม่แน่นอน เครื่องดนตรีในกลุ่มนี้ไม่มีระดับเสียงแน่นอน หน้าที่สำคัญก็คือใช้เป็นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะเกิดเสียงโดยการตี สั่น เขย่า เคาะ หรือขูด ได้แก่
    • 2.1 ฉาบ (อังกฤษCymbals) มีหลายลักษณะ บางชนิดใช้ตีเป็นคู่ให้เกิดเสียง ฉาบบางชนิดใช้เพียงข้างเดียว ตีด้วยไม้ตี ฉาบประเภทนี้ต้องติดตั้งบนขาตั้ง เช่นฉาบสำหรับกลองชุด ฉาบมีหลายขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางมากก็จะทำ ให้เกิดเสียงดัง และความก้องกังวานมากขึ้นด้วย
    • 2.2 ไทรแองเกิล หรือ กิ่ง (อังกฤษTriangle) ทำด้วยแท่งโลหะ ดัดให้เป็นรูปสามเหลี่ยม แท่งโลหะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซ.ม. เพื่อให้เสียงดังกังวานต้องแขวนไว้กับเชือกแล้วตีกระทบด้วยแท่งโลหะ ลักษณะเสียงของไทรแองเกิลจะแจ่มใสมีชีวิตชีวา
    • 2.3 มาราคัส (อังกฤษMaracas) เดิมทำด้วยผลน้ำเต้าแก่จัดทำให้แห้งภายใน บรรจุด้วยเมล็ดน้ำเต้า เมล็ดถั่วต่าง ๆ ต่อด้ามไว้สำหรับถือเวลาเล่น ใช้เขย่าเพื่อให้เกิดเสียงดังซ่า ๆ
    • 2.4 กลองใหญ่ (อังกฤษBass drum) มี 2 หน้าขึงด้วยหนังกลอง กลองใหญ่ที่ใช้ในวงออร์เคสตราจะมีขนาดใหญ่กว่า 32 นิ้ว ถ้าใช้ในวงโยธวาทิตจะมีขนาดตั้งแต่ 24-32
    • 2.5 กลองเล็ก (อังกฤษSnare drum) มี 2 หน้า ขึงด้วยหนังกลอง ลักษณะเฉพาะก็คือหน้ากลองด้านล่างขึงคาดไว้ด้วยสายสะแนร์ทำด้วยเอ็นสัตว์
    • 2.6 กลองทิมปานี (อังกฤษTimpani) กลองทิมปานีเป็นกลองที่มีลักษณะเหมือนกะทะหรือกาต้ม ในการบรรเลงต้องใช้อย่างน้อย 2 ใบ
    • 2.7 กลองชุด (อังกฤษDrum set) คือกลองที่ประกอบด้วยกลองใหญ่ กลองสะแนร์ ฉาบ 1 หรือ 2 ใบ กลองทอม 2 หรือ 3 ลูก ไฮแฮท 1คู่ พร้อมทั้งยังเพิ่มเครื่องกระทบจังหวะอื่น ๆ ประกอบเข้า ด้วยกันเป็นพิเศษอีก เช่น คาวเบลส์ เป็นต้น
    • 2.8 คองก้า (อังกฤษConga) กลองชนิดหนึ่งมีรูปทรงต่าง ๆ กัน โดยปกติมีความสูง ประมาณ 30 นิ้ว เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 11 นิ้ว ตัวกลองทำด้วยไม้อาจใช้ท่อนไม้นำมาขุดให้กลวง หรือใช้แผ่นไม้ตัดให้เป็นรูปทรงตัวกลองคาดแผ่นโลหะไว้รอบตัวกลองติดยึดด้วยหมุดโลหะ คองก้าเป็น กลองหน้าเดียว ขึงด้วยหนังสัตว์ กลองคองก้ามีหลายขนาด ต่างระดับเสียงกัน จะใช้ 3-5 ใบ
    • 2.9 กลองบองโก (อังกฤษBongos) เป็นกลองคู่ต้องมี 2 ลูกเสมอ เล็ก 1 ลูก ใหญ่ 1 ลูก ระดับเสียงของกลอง 2 ลูกตั้งให้ห่างกันในระยะคู่ 4 หรือคู่ 5
    • 2.10 แทมบูรีน (อังกฤษTambourine) ประกอบขึ้นด้วยขอบกลมเหมือน ขอบกลองขนาดเล็กประมาณ 10 นิ้ว ขอบอาจจะทำด้วยไม้ พลาสติก หรือโลหะ รอบ ๆ ขอบติดด้วย แผ่นโลหะประกบกัน 2 แผ่นหรือติดด้วยลูกกะพรวนเป็นระยะใช้ตีกระทบกับฝ่ามือ หรือสั่นเขย่าให้เกิดเสียงดังกรุ๋งกริ๋งเพื่อประกอบจังหวะ แทมบูรีนบางชนิดขึงด้วยหนัง 1 ด้าน ใช้ฝ่ามือตีที่หนังได้
    • 2.11 คาวเบลส์ (อังกฤษCowbells) พัฒนามาจากกระดิ่งผูกคอวัว รูปทรงคล้ายระฆังมากกว่ากระดิ่ง ตีด้วยไม้ตีกลอง ใช้มากในดนตรีละตินอเมริกา ดนตรีประกอบการเต้นลีลาศหรือเพลงลูกทุ่งของไทย คาวเบลส์ยังใช้เป็นอุปกรณ์ส่วนหนึ่งของกลองชุดอีกด้วย

ความเป็นมาของเครื่องกระทบ

  • ยุคหินเก่าตอนต้น มีการค้นพบเครื่องดนตรีหลายชนิดทั้งที่ทำให้เกิดเสียงโดยการเคาะ เป่า และขัดถู ส่วนเครื่องกระทบที่ค้นพบในยุคนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการนำหนังสัตว์มาขึงกับตอไม้ที่เจาะกลวงตรงกลางและใช้กระดูกสัตว์ตี เรียกว่า กลองขึงหนัง
  • ยุคหินใหม่ตอนปลาย ค้นพบ Rattle เป็นการนำเศษก้อนหินหรือเปลือกหอยมาร้อยรวมกันแล้วเขย่าให้เกิดเสียง, ไซโลโฟน การนำเศษไม้หรือเศษกระดูกที่มีขนาดใกล้เคียงกัน นำมาเรียงจากใหญ่ไปหาเล็ก แล้วตีด้วยไม้หรือกระดูก, กลองขึงหนัง และไม้ตีชนิดต่างๆ
  • ยุคกลาง ดนตรีถูกจำกัดอยู่เพียงการร้องเพลงเพื่อศาสนาเท่านั้น ทำให้เครื่องดนตรีประเภทเครื่องกระทบไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก แต่จะพบในลักษณะที่เป็นของเล่น หรือเครื่องส่งสัญญาณต่างๆ เช่น กระดิ่ง หรือระฆัง
  • ยุคกลางตอนปลาย เพลงนอกศาสนาเริ่มมีถือกำเนิดขึ้น แต่เครื่องกระทบยังคงไม่ได้รับความนิยม ที่พอจะรู้จักและพบในช่วงนี้คือ กลองTabor (เป็นกลองขนาดเล็กที่ใช้ตีประกอบการเป่าขลุ่ย ที่ได้รับอิทธิพลจากตุรกี), แทมบูรีน (Tambourine) และกลองทิมปานี (Timpani) หรือเรียกว่า แคทเทิลดรัมส์ (Kettledrums)ซึ่งจะใช้ในราชสำนักและพิธีกรรมทางศาสนา ต่อมาปีค.ศ.1670 มีการนำเครื่องกระทบเข้ามาใช้ในวงออร์เคสตรา โดยกลองทิมปานีได้รับการยอมรับมากที่สุด เครื่องกระทบจึงเริ่มมีบทบาทมากขึ้น
  • ยุคโรแมนติก เครื่องกระทบมีบทบาทมากขึ้น และได้รับการพัฒนาขึ้นด้วย โดยมีการเปลี่ยนแปลงให้มีหลายขนาด และหลายๆ เสียง เช่น แทมบูรีน, ไซโลโฟน, ระฆังราว (Tubular Bell), คัสทาเนท (Castanets)หรือกรับสเปน
  • ยุคสมัยใหม่ (Modern) ใยยุคนี้มีการปรับปรุงและก่อสร้างกลไกต่างๆ ให้กับเครื่องกระทบเพื่อตอบสนองการใช้งานของคีตกวี เช่น การเปลี่ยนเสียงของกลองทิมปานี
  • ศตวรรษที่ 20 กลองหนังถูกพัฒนาเป็น กลองชุด (Drums Set) และไซโลโฟน ได้รับการพัฒนาให้มีรูปแบบแตกต่างไปจากเดิมเรียกว่า ไวบราโฟน (Vibraphone) และมาริมบา (Marimba)

ที่มา https://th.wikipedia.org/wiki/เครื่องกระทบ
       http://53012010176.blogspot.com/2013/09/percussion-instruments.html